กลิ่นตัวแรงทำไงดี pantip วิธีการป้องกันและกำจัดกลิ่นตัว

กลิ่นตัวแรงทำไงดี pantip วิธีการป้องกันและกำจัดกลิ่นตัว

กลิ่นตัวแรงทำไงดี pantip ปัญหากลิ่นตัวไม่มีใครอยากให้เกิดขึ้น เนื่องจากทำให้เสียบุคลิกภาพและทำให้ขาดความมั่นใจในการใช้ชีวิตประจำวัน ยิ่งหากเกิดกับวัยรุ่นที่กำลังมีฮอร์โมนที่เปลี่ยนแปลงยิ่งไม่อยากให้เกิดขึ้นมากที่สุด แต่เมื่อเกิดขึ้นมาแล้วเราก็ต้องมาหาวิธีป้องกันและวิธีรักษากันว่าทำอย่างไรถึงจะไม่ให้เกิดกลิ่นตัว

ก่อนอื่นเลยเราต้องมาทราบสาเหตุของการเกิดกลิ่นตัวกันก่อนว่ามีสาเหตุมาจากอะไร เมื่อเราทราบสาเหตุเราก็จะมองหาวิธีป้องกันและวิธีรักษาได้ถูกต้อง มาดูกันค่ะว่ากลิ่นตัวแรงมีสาเหตุมาจากอะไร

สาเหตุของการเกิดกลิ่นตัว

ผิวหนังของมนุษย์จะประกอบไปด้วยต่อมเหงื่อที่สำคัญ 2 ต่อมด้วยกัน และจะทำหน้าที่แตกต่างกันออกไปดังนี้

  • ต่อมอะโพไครน์ (Apocrine Gland) เป็นต่อมที่อยู่ในบริเวณที่มีขนขึ้นมาก เช่น รักแร้ หรือขาหนีบ จะผลิตของเหลวสีขาวขุ่นคล้ายน้ำนมออกมาเมื่อเกิดความเครียด และเมื่อสัมผัสกับเชื้อแบคทีเรียบนผิวหนังจะทำให้เกิดกลิ่นขึ้น
  • ต่อมเอกไครน์ (Eccrine Gland) เป็นต่อมที่อยู่บนผิวหนัง มีหน้าที่ผลิตเหงื่อเมื่ออุณหภูมิในร่างกายสูงขึ้นเพื่อคลายความร้อนในร่างกาย ในเหงื่อจะมีน้ำและเกลือเป็นส่วนประกอบหลัก และจะระเหยเมื่ออุณหภูมิในร่างกายเย็นตัวลง

ปัจจัยอื่นที่ทำให้เกิดเหงื่อนอกเหนือจากต่อมเหงื่อ คือ

  • เพศชายในช่วงเข้าสู่วัยรุ่นมีแนวโน้มที่จะมีเหงื่อออกมากและทำให้เกิดกลิ่นตัวได้มากกว่าเพศหญิง
  • การมีน้ำหนักตัวเกิน
  • การรับประทานอาหารที่มีกลิ่นแรงหรืออาหารที่มีรสเผ็ด การดื่มแอลกอฮอล์ การใช้ยารักษาภาวะซึมเศร้า ภาวะร่างกายหลั่งเหงื่อมากผิดปกติ (Hyperhidrosis)
  • ภาวะสุขภาพบางอย่างก็อาจเป็นสาเหตุทำให้เกิดกลิ่นตัวที่แตกต่างกันออกไปได้ เช่น กลิ่นคล้ายผลไม้จะเป็นสัญญาณของโรคเบาหวาน กลิ่นคล้ายสารฟอกขาวอาจเป็นสัญญาณของโรคตับหรือโรคไต เป็นต้น

แนะนำบทความยอดนิยม Miradry จากเว็บไซต์ Rattinan.com

วิธีการป้องกันและกำจัดกลิ่นตัว

  • อาบน้ำวันละ 2 ครั้งเพื่อชำระล้างสิ่งสกปรก ทำความสะอาด และกำจัดเชื้อแบคทีเรียบนผิวหนัง หลังอาบน้ำควรเช็ดตัวให้แห้ง เพราะแบคทีเรียสามารถเจริญเติบโตได้ในพื้นที่ที่มีความเปียกชื้น
  • สวมใส่เสื้อผ้าที่สะอาดหมั่นทำความสะอาดเสื้อผ้าเป็นประจำ ไม่ใส่เสื้อผ้าซ้ำโดยไม่ซัก เปลี่ยนชุดหลังออกกำลังกายหรือทำกิจกรรมที่มีเหงื่อออกมาก
  • ดูแลความสะอาดของรักแร้รักแร้เป็นอวัยวะที่มีต่อมอะโพไครน์เป็นจำนวนมากซึ่งเป็นสาเหตุที่ทำให้เกิดกลิ่นตัว ควรอาบน้ำและทำความสะอาดบริเวณรักแร้ให้สะอาดโดยใช้สบู่ หรือผลิตภัณฑ์อาบน้ำที่มีฤทธิ์ต้านเชื้อแบคทีเรีย
  • ปรับเปลี่ยนการรับประทานอาหารโดยเฉพาะอาหารที่อุดมไปด้วยไขมัน หรืออาหารที่มีกลิ่นแรง เช่น กระเทียม หัวหอม ผงกระหรี่ หรือเนื้อแดง จะสามารถซึมออกมาทางรูขุมขน ทำให้เหงื่อมีกลิ่น และเกิดกลิ่นตัวได้
  • ปรึกษาแพทย์หากพบว่ามีเหงื่อหรือกลิ่นตัวรบกวนการใช้ชีวิตประจำวัน เป็นผลมาจากการใช้ยาบางชนิด ควรพบแพทย์เพื่อวินิจฉัยและทำการรักษาที่เหมาะสม

ซึ่งปัจจุบันนี้วงการแพทย์จะใช้วิธีการยิงเลเซอร์เพื่อเป็นการรักษากลิ่นตัวแรงด้วยเทคโนโลยีที่ทันสมัย เป็นการนำเข้าเครื่องจากสหรัฐอเมริกา ตัวเครื่องมีความปลอดภัยสูงและให้ผลลัพธ์ดีที่สุด จึงมั่นใจได้ว่าเมื่อเข้ามารับบริการแล้วท่านจะไม่ผิดหวังอย่างแน่นอน เทคโนโลยีที่ว่านี้คือ การรักษาด้วย miradry

Miradry เหมาะกับใคร
  • ผู้ที่มีภาวะเหงื่อออกรักแร้มาก ที่ถูกวินิจฉัยว่าเป็น Hyperhidrosis
  • ผู้ที่ต้องการแก้ไขปัญหาเหงื่อออกรักแร้ และ กำจัดกลิ่นตัวแบบถาวร
  • ผู้ที่เคยทำการรักษาด้วยวิธีฉีดสารระงับกลิ่นตัวบางประเภทมาก่อน แต่ต้องการให้ผลลัพธ์ยาวนานขึ้น
  • ผู้ที่ไม่ต้องการให้เหงื่อรบกวนเวลาออกกำลังกาย หรือเล่นกีฬา
  • ผู้ที่มีปัญหาในการใช้โรลออนหรือสารกำจัดกลิ่นอื่น ๆ
  • กลิ่นตัวแรง หรือกลิ่นเต่าแรง แม้จะอาบน้ำ ใช้สเปรย์แล้ว
ประโยชน์ของการทำ miradry
  • ช่วยแก้ปัญหาเหงื่อออกรักแร้ ได้เป็นอย่างดี
  • สามารถกำจัดรากขนบางส่วนได้ในคราวเดียวกัน
  • ไม่ต้องผ่าตัด
  • ช่วยลดปัญหากลิ่นใต้วงแขนได้
  • ผลลัพธ์ที่ได้ขึ้นอยู่กับสภาพผิวของแต่ละบุคคล
  • หลังทำการรักษาสามารถกลับบ้านได้ทันที

อย่างที่ได้กล่าวไปแล้วว่าวิธีนี้เป็นวิธีที่ปลอดภัยที่สุด ดังนั้นภาวะแทรกซ้อนจึงมักไม่ค่อยมีแต่ถ้าจะมีหรือเกิดขึ้นอาจจะเป็นดังนี้

  • อาจจะมีการเจ็บจากการฉีดยาชาเพียงเล็กน้อย
  • มีอาการบวมหลังการทำเล็กน้อย แต่สามารถใช้ชีวิตประจำวันได้ตามปกติ

บทสรุป

กลิ่นตัวแรงทำไงดี pantip เรื่องกลิ่นตัวเป็นปัญหาที่ใคร ๆ ก็ไม่อยากให้เกิดขึ้น แต่เมื่อเกิดขึ้นแล้ว เราก็ต้องรับมือและหาวิธีแก้ปัญหาที่ให้ได้ผลดีที่สุด โดยขั้นแรกอาจเริ่มต้นด้วยวิธีของตัวเองก่อน แต่ถ้าหากไม่ได้ผลค่อยมองหาเทคนิคทางการแพทย์เข้าช่วย ซึ่งก่อนที่จะเข้ารับบริการท่านจะต้องศึกษาข้อมูลให้ละเอียด ทั้งนี้เพื่อประโยชน์ของตัวท่านเอง