กล้วยน้ำว้ารักษาโรคกระเพาะ

กล้วยน้ำว้ารักษาโรคกระเพาะ

กล้วยน้ำว้า เป็นผลไม้ที่สามารถหากินได้ง่ายตามบ้านเรา ไม่ต้องไปหาซื้อให้เปลืองเงิน เปลืองทอง เพราะทุกบ้านต้องปลูกไว้อย่างน้อยก็ต้นสองต้น เพราะต้นกล้วยก็มีประโยชน์หลายอย่าง ทั้งใบ และต้นต่างก็มีประโยชน์ทั้งนั้น ที่สำคัญกล้วยน้ำว้ายังมีสรรพคุณหลายอย่าง ไม่ว่าจะเป็นช่วยลดน้ำหนัก เพราะกล้วยน้ำว้ามีวิตามินและแร่ธาตุต่าง ๆ ที่เป็นประโยชน์ต่อร่างกาย ที่สำคัญการกินกล้วยน้ำว้าจะให้พลังงานทันทีและอยู่ได้นาน ช่วยดูดซึมสารอาหารในลำไส้ใหญ่ได้ดีและรักษาการอักเสบของลำไส้ใหญ่ และสรรพคุณอีกอย่างของกล้วยน้ำว้าก็คือ กล้วยน้ำว้าสามารถรักษาโรคกระเพาะได้นั่นเอง

กล้วยน้ำว้ายารักษาชั้นดี ช่วยรักษาโรคกระเพาะได้

หลายคนที่มีโรคประจำตัวคือ โรคกระเพาะจะรู้สึกถึงความเจ็บปวด ทรมานจากแผลในกระเพาะอาหาร บางคนถึงกับขั้นเลือดออกในกระเพาะอาหาร แต่โรคนี้สามารถรักษาให้หายได้ด้วยกล้วยน้ำว้าดิบ

กล้วยน้ำว้า เป็นผลไม้ที่หาง่ายและมีราคาถูก บางบ้านไม่ต้องซื้อเพราะปลูกกินเอง แต่สรรพคุณของกล้วยนั้นมีมากมาย หากทานกล้วยน้ำว้าดิบสามารถช่วยรักษาโรคกระเพาะได้ เพราะในกล้วยน้ำว้าดิบมีสาร แทนนิน ที่มีฤทธิ์ในการยับยั้งการเจริญเติบโตของเชื้อแบคทีเรีย และยังมีสารอีกตัวหนึ่งคือสาร เซโรโทนิน ที่จะช่วยกระตุ้นให้กระเพาะอาหารผลิตเยื่อเมือกมากขึ้น และสามารถเคลือบแผลที่กระเพาะอาหาร และสามารถลดการระคายเคืองได้

การใช้กล้วยน้ำว้ารักษารักษาแผลในกระเพาะอาหาร

การใช้กล้วยน้ำว้ารักษาแผลในกระเพาะอาหาร แนะนำให้ใช้กล้วยน้ำว้าดิบเท่านั้น เพราะเราต้องการยางของมันในการรักษาแผลกล้วยห่ามหรือกล้วยสุกจึงไม่เหมาะในการรับประทานเพื่อรักษาแผลในกระเพาะ กล้วยแก่หรือกล้วยดิบจึงมีผลในการรักษาแผลในกระเพาะอาการที่ดีที่สุด

กล้วยน้ำว้า ช่วยในเรื่องของกรดไหลย้อนได้หรือไม่

กล้วยดิบ มีสารสำคัญหลายอย่างและมีสรรพคุณที่สามารถช่วยสมานแผลในกระเพาะอาหาร และสารสำคัญที่มีอยู่ใน ได้แก่ สารแทนนิน และสาร Sitoindoside ซึ่งมีผลช่วยบรรเทาอาการกรดไหลย้อน โดยสารแทนนินมีฤทธิ์ฝาดช่วยสมานแผลในกระเพาะอาหาร และยังช่วยลดอาการท้องเสียได้อีกด้วย หากคุณมีอาการกรดไหลย้อนแนะนำให้คุณเปลี่ยนพฤติกรรมการใช้ชีวิตของคุณทันที เช่น

  • หลีกเลี่ยงการสูบบุหรี่เมื่อมีอาการ
  • หลีกเลี่ยงการดื่มสุรา ชา กาแฟ
  • หลีกเลี่ยงอาหารรสจัด
  • ควบคุมน้ำหนัก ไม่ควรรับประทานในปริมาณมากเกินไป
  • ไม่ควรนอนทันทีหลังรับประทานอาหาร
  • ไม่สวมเสื้อผ้าที่รัดแน่นเกินไป
  • พักผ่อนให้เพียงพอ และออกกำลังกายทุกวันอย่างสม่ำเสมอ
  • หากอาการไม่ดีขึ้นให้ไปพบแพทย์ทันที และหากต้องใช้กล้วยดิบหรือใช้ยาในการบรรเทาควรปรึกษาแพทย์

ขั้นตอนการทำผงกล้วยดิบ ชงดื่มเพื่อรักษาโรคกระเพาะ

กล้วย เป็นผลไม้บ้าน ๆ แต่มีประโยชน์มากมาย และกล้วยยังสามารถควบคุมโรคเกี่ยวกับลำไส้ได้ เพราะเนื้อกล้วยอ่อนนิ่ม มีสภาพเป็นกลางไม่เป็นกรด ทำให้ลดการระคายเคืองในกระเพาะอาหารได้ดี และสำหรับการกินกล้วยเพื่อรักษาอาการของโรคกระเพาะนั้นสามารถทำได้ง่าย ๆ โดยการทำเป็นกล้วยผงเพื่อชงดื่ม ซึ่งมีขั้นตอนการทำดังนี้

  1. นำกล้วยมาล้างให้สะอาด
  2. หั่นทั้งเปลือกเป็นแว้นบาง ๆ
  3. นำกล้วยที่หั่นเป็นแว้นไปตากสัก 3 วันให้กล้วยแห้งได้ที่
  4. นำกล้วยที่ตากแห้งไปปั่นให้ละเอียด
  5. ปั่นแล้วนำไปร่อนเอาแต่เศษผง
  6. ตักชง 2 ช้อนต่อน้ำร้อนครึ่งแก้ว
  7. รอให้อุ่นแล้วคนให้เข้ากันดื่มได้เลย

นอกจากผงกล้วยดิบสามารถรักษาโรคกระเพาะได้แล้ว ยังสามารถช่วยในเรื่องอาการท้องเสียได้อีกด้วย กล้วยมีสรรพคุณรอบตัวจริง ๆ มีติดบ้านไว้ดีที่สุด

นอกจากรักษาโรคกระเพาะอาหารได้แล้วกล้วยยังสามารถรักษาโรคต่าง ๆ ได้ดังนี้

โรคความดันโลหิตสูง

คนที่เป็นโรคความดันโลหิตสูงกินกล้วยสุกเป็นประจำสามารถช่วยรักษาโรคนี้ได้

โรคเบาหวาน

กล้วยสามารถแก้เบาหวานได้ แต่ต้องใช้ดอกกล้วยเท่านั้น โดยวิธีการรับประทานมีดังนี้ ต้มดอกกล้วย 1 กำมือ ใช้น้ำในการต้ม 3 แก้วต้มให้นาน 20 นาที ต้มเสร็จดื่มวันละ 1 แก้ว 2 เวลาคือเช้าและเย็น

ปวดท้องประจำเดือน

เอากล้วยน้ำว้าสุก และเกลือแกงมาต้มให้เดือดนานครึ่งชั่วโมง หลังจากต้มเสร็จนำมาดื่มครั้งละ 1 ถ้วยชาก่อนอาหารเช้าและเย็น จะช่วยแก้อาการปวดประจำเดือนได้ดี

ปากขม

เมื่อเรามีไข้จะทำให้เราปากขมกินอะไรก็ขมไปหมด แต่กล้วยน้ำว้าจะไม่ขม ยิ่งทำให้มีแรงอีกด้วย

ปากเหม็น

ใครที่ปากเหม็นกินน้ำกล้วยน้ำว้าตอนเข้าสัก 6-7 ลูกแล้วค่อยแปรงฟันทำแบบนี้ติดต่อกันประมาณ 1 อาทิตย์รับรองได้เลยว่ากลิ่นปากของคุณจะหายแน่นอน

ร้อนใน

กล้วยน้ำว้ามีสรรพคุณแก้ร้อนในได้ วิธีการใช้เอารากกล้วยดิบมาหั่นเป็นชิ้นเล็ก ๆ ใส่น้ำลงไป 2 แก้วต้มให้เดือดนาน 15 นาที รอให้เย็นนำมาดื่มครั้งละ 1 แก้ว วันละ 3-4 ครั้ง กินจนกว่าร้อนในจะหาย

ริดสีดวงจมูก

สรรพคุณของกล้วยดิบสามารถรักษาริดสีดวงจมูกได้ โดยใช้ใบกล้วยดิบมวนเป็นยาสูบแกริดสีดวงได้

โรคพยาธิ

กล้วยสามารถรักษาโรคพยาธิได้ ด้วยการต้นและใบของกล้วยมากินโดยกินครั้งละ 1 ช้อนชาก่อนอาหารเช้าและเย็น

โรคริดสีดวงทวาร

คนที่เป็นโรคริดสีดวงเริ่มแรก หรือเป็นขั้นรุนแรงควรกินกล้วยเป็นประจำ เพราะกล้วยจะทำให้อุจจาระอ่อน เวลาเราถ่ายอุจจาระจะได้ไม่เจ็บ

โรคหัวใจ

กล้วยสามารถรักษาโรคหัวใจได้ โดยใช้ดอกกล้วยแห้วบดผสมน้ำ เติมเกลือเล็กน้อยกินครั้งละ 1-2 ช้อนชาเช้าเย็น จะช่วยรักษาโรคหัวใจได้

โรคหอบหืด

กล้วยสามารถรักษาโรคหอบหืดได้ โดยใช้ผิวไผ่ 1 กำมือ ห่อด้วยใบตองนำไปต้มกินวันละ 2-3 ครั้ง ครั้งละ 1 แก้ว

หูเป็นฝี

หูเป็นฝี สามารถรักษาให้หายด้วยกล้วยน้ำว้า วิธีการรักษาคือ การนำทางกล้วยน้ำว้ามาลนไฟแล้วปิดเอาแต่น้ำมาหยอดใส่ในรูหูประมาณ 5 นาทีเทออกมาก็จะหายปวดทำวันละ 2-3 ครั้งติดต่อกันจนกว่าจะหาย

ทั้งหมดนี้เป็นสรรพคุณของกล้วยที่ไม่ใช่แค่รักษาโรคกระเพาะเท่านั้นแต่ยังสามารถรักษาโรคอื่น ๆ ได้อีกมากมาย หากใครยังไม่มีกล้วยติดบ้านหามาปลูกได้แล้ว สรรพคุณหลากหลาย ที่สำคัญยังสามารถปลูกง่าย ปลูกที่ไหนก็ได้อีกด้วย