ราคาการผ่าตัดขากรรไกร

ทำไมต้องจัดฟันร่วมกับการผ่าตัดขากรรไกร ราคาด้วย

การผ่าตัดขากรรไกร เป็นการผ่าตัดเพื่อปรับแต่งรูปหนให้เข้ากัน เพื่อความสวยงาม และการผ่าตัดขากรรไกรเป็นการแก้ไขปัญหาเรื่องของการสบฟันได้อีกด้วย และวันนี้เราจะมาพูดถึงการจัดฟันร่วมกับการผ่าตัดขากรรไกร ราคา เป็นการวิธีการรักษาคนไข้ที่ประสบปัญหา หน้าเบี้ยว คางยื่น ฟันยื่น ฟันเหยิน ยิ้มเห็นเหงือกเยอะ และมีปัญหาในการบดเคี้ยวผิดปกติ เนื่องจากการสบฟันที่ผิดปกติ ซึ่งการจัดฟันเพียงอย่างเดียวไม่สามารถแก้ไขปัญหาเหล่านี้ได้ เพราะมีความผิดปกติทางโครงสร้างใบหน้าและขากรรไกร ปัญหาต่าง ๆ เหล่านี้ ไม่ใช่แค่ในเรื่องของความสวยงาม จนกลายเป็นปมด้อยหรือถูกล้อเลียนเท่านั้น แต่ยังส่งผลในเรื่องของคุณภาพชีวิต เช่น เรื่องการบดเคี้ยวอาหาร การกัด การออกเสียง ดังนั้น การมีโครงสร้างใบหน้าและขากรรไกรผิดปกติจึงควรได้รับการแก้ไขให้ตรงจุดที่สุดจึงต้องใช้ 2 วิธีร่วมกันคือ “การจัดฟันร่วมกับการผ่าตัดขากรรไกร”

การจัดฟันร่วมกับการผ่าตัดขากรรไกร คืออะไร ?

คือการผ่าตัดให้รูปหน้าได้รูปเข้ากันมากยิ่งขึ้น รวมไปถึงการแก้ปัญหาการสบฟันให้มีความเหมาะสม เพราะบางคนมีความผิดปกติของขนาด รูปร่างหรือตำแหน่งของกระดูกขากรรไกรเพียงเล็กน้อยนั้นสามารถส่งผลกระทบทำให้การสบฟันและการบดเคี้ยวผิดปกติ รวมไปถึงความผิดปกติของรูปหน้าอีกด้วย

ทำไมต้องจัดฟันร่วมกับการผ่าตัดขากรรไกร

  • สามารถช่วยแก้ไขความผิดปกติของตำแหน่งของฟัน ช่วยให้การสบฟันมีความเหมาะสม ช่วยปรับการเรียงตัวฟันให้มีความสวยงาม และใช้งานได้ดี
  • ช่วยแก้ไขและปรับปรุงโครงหน้าที่ผิดปกติ เช่น หน้าเบี้ยว คางยื่น ฟันไม่สบกับ เพื่อการเคี้ยวให้ถูกต้องและมีประสิทธิภาพมากขึ้น
  • แก้ไขให้สามารถออกเสียงได้ดีขึ้น ชัดขึ้น มีบุคลิกภาพที่ดี ที่สำคัญยังแก้ไขถึงความผิดปกติของรูปหน้าอีกด้วย ทำให้มีใบหน้ามีความสวยงามมากยิ่งขึ้น
  • ช่วยให้ริมฝีปากสามารถหุบได้สนิทในบางกรณีที่มีปัญหาเรื่องนี้
  • ช่วยป้องกันและหลีกเลี่ยงการเกิดปัญหาเกี่ยวกับข้อต่อขากรรไกรผิดปกติ (TMJ)
  • ช่วยให้มีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น

ขั้นตอนการผ่าตัดขากรรไกรและจัดฟันหลังผ่าตัด

สำหรับคนไข้ที่ทีมทันตแพทย์ลงความเห็นว่า ควรได้รับการผ่าตัดขากรรไกรก่อนจัดฟัน (Surgery First ) เมื่อพร้อมที่จะผ่าตัด ทันตแพทย์จะทำการพิมพ์ปาก เพื่อจำลองการผ่าตัดในแบบจำลองฟัน และทำเฝือกสบฟัน (Occlusal Splint)สำหรับใช้ในห้องผ่าตัด และหลังจากผ่าตัดเสร็จแล้วอาจจำเป็นต้องพักฟื้นที่โรงพยาบาล 2 วัน และพักฟื้นต่อที่บ้าน 2-4 สัปดาห์ จาก หลังจากนั้นเมื่อคนไข้หายดีแล้ว จึงเข้าสู่กระบวนการ การจัดฟัน เพื่อปรับการเรียงฟัน และการสบฟันให้สมบูรณ์ขึ้น ซึ่งจะใช้เวลาประมาณ 1 ปี

วิธีการจัดฟันก่อน แล้วค่อยผ่าตัดขากรรไกร

สำหรับคนไข้ที่ทีมทันตแพทย์ลงความเห็นว่าควรได้รับการจัดฟันให้มีความเหมาะสมดีก่อนเข้ารับการผ่าตัดขากรรไกร คนไข้เข้ารับการจัดฟันก่อนผ่าตัด ใช้เวลาประมาณ 1 ปี เพื่อแก้ไขการซ้อนเกและปรับแนวแกนฟัน เนื่องจากโดยปกติ คนไข้ที่มีความผิดปกติของขากรรไกร จะมีการชดเชยของฟันโดยฟันจะล้มเอนตามธรรมชาติไปปิดบังความผิดปกติของขากรรไกร ดังนั้น เมื่อเข้ารับการจัดฟันก่อนผ่าตัดจะทำให้การสบฟันก่อนผ่าตัดโดยรวมทั้งใบหน้าดูแย่ลงเพียงชั่วคราว และเมื่อพร้อมที่จะผ่าตัด ทันตแพทย์จะทำการพิมพ์ปากอีกครั้ง

เพื่อจำลองการผ่าตัดในแบบจำลองฟัน และทำเฝือกสบฟัน(Occlusal Splint) สำหรับใช้ในห้องผ่าตัด และหลังจากผ่าตัดเสร็จแล้วอาจจำเป็นต้องพักฟื้นที่โรงพยาบาล 2 วัน และพักฟื้นต่อที่บ้าน 2-4 สัปดาห์ เมื่อคนไข้พักฟื้นหายดีแล้วจึงเข้าสู่กระบวนการจัดฟันต่ออีกประมาณ 6 เดือน – 1 ปี เพื่อปรับการเรียงตัวและการสบฟันให้สมบูรณ์มากขึ้น

การจัดฟันหลังการผ่าตัดยังคงมีความจำเป็นในทุกกรณีเพื่อแก้ไขการสบฟันที่อาจยังไม่ถูกต้องสมบูรณ์ หรือเพื่อคงสภาพฟันหลังการผ่าตัด การผ่าตัดเพื่อแก้ไขความผิดปกติของขากรรไกรนั้น ส่วนใหญ่แล้วจะต้องรอให้ผู้เข้ารับบริการมีฟันแท้ขึ้นมาจนครบเสียก่อน นอกจากในบางกรณีเท่านั้นที่มีความจำเป็นพิเศษ เช่นกรณีอุบัติเหตุ ศัลยแพทย์จึงจะทำการผ่าตัดให้ทันที และการผ่าตัดจัดแต่งขากรรไกรในผู้ใหญ่นั้น บางครั้งยังสามารถเป็นศัลยกรรมเพื่อความงามโดยทำร่วมกับการผ่าตัดเนื้อเยื่อบางส่วนเพื่อให้ได้รูปหน้าที่มีความสวยงามมากขึ้นได้อีกด้วย

การดูแลรักษาหลังจัดฟันร่วมกับการผ่าตัดขากรรไกร

  • รับประทานยาตามคำแนะนำของศัลยแพทย์อย่างเคร่งครัด
  • ควรรักษาความสะอาดในช่องปากอยู่เสมอ เพื่อลดผลแทรกซ้อนการติดเชื้อ ควรบ้วนปากและเริ่มแปรงฟันหลังผ่าตัดวันที่ 2 และแปรงฟันอย่างระมัดระวัง
  • ทันตแพทย์อาจใช้ยางยึดขากรรไกรบนและล่างไว้ด้วยกัน ในกรณีที่กัดฟันไม่ลงหรือฟันไม่สบกันประมาณ 2-4 สัปดาห์ ระหว่างนี้ให้คนไข้รับประทานอาหารเหลวผ่านทางกระบอกฉีดยา ประมาณ 2-4 สัปดาห์ ทันตแพทย์จะเอายางออกให้ คนไข้สามารถเคลื่อนไหวขากรรไกรบนและล่างได้
  • ควรรับประทานอาหารเหลวในช่วง 1-2 สัปดาห์แรกของการผ่าตัด เพื่อเป็นการรักษาความสะอาดของบาดแผลในช่องปาก
  • ไม่ควรเคี้ยวอาหารเป็นระยะเวลาอย่างน้อย 3 เดือน เมื่อเข้าสู่เดือนที่ 2 สามารถเริ่มรับประทานอาหารอ่อนๆได้ เช่น โจ๊ก ไข่ตุ๋น
  • การปฏิบัติกิจวัตรประจำวัน สามารถทำได้ตามปกติ แต่ใน 1-2 สัปดาห์แรก ควรหลีกเลี่ยงการออกกำลังกาย และกิจกรรมต่าง ๆ ที่ต้องใช้แรงหนัก เช่น ยกของ วิ่ง
  • หลังสัปดาห์ที่ 2 สามารถออกกำลังกายเบา ๆ เข่น เดิน เหยียดกล้ามเนื้อได้
  • หลังสัปดาห์ที่ 12 สามารถออกกำลังกายแบบเต้นโรบิค วิ่ง ปั่นจักรยาน ว่ายน้ำ แต่ควรหลีกเลี่ยงกีฬาที่ต้องปะทะกัน เช่น บาสเกตบอล ฟุตบอล กีฬาผาดโผน
  • ควรประคบเพื่อลดอาการบวม ประมาณ 3-5 วันแรกตลอดเวลาหลังผ่าตัด หลังจากนั้นเปลี่ยนเป็นประคบร้อน/อุ่น ต่อเนื่องอีก 3 วัน หรือตามคำแนะนำของทันตแพทย์ เพื่อลดอาการบวม
  • การนอนหลับ ควรนอนยกศีรษะสูง 30 องศา ประมาณ 2 สัปดาห์ เพื่อช่วยในการลดบวม
  • หลีกเลี่ยงการล้วงเข้าไปในช่องปาก ห้ามเขี่ยแผลเล่น เพราะจะทำให้แผลหายช้าและเกิดการติดเชื้อ