สำหรับคนอ้วนที่อยากผอม แต่จะให้อดอาหารคงจะทำได้อยาก แต่วันนี้เรามีวิธีที่ช่วยให้คนอ้วนกลับมามีหุ่นที่สวยงามได้ โดยที่ไม่ต้องอดอาหาร และวิธีที่ว่าก็คือการผ่าตัดกระเพาะนั่นเอง ซึ่งเป็นอีกหนึ่งทางเลือกของคนอ้วนที่มีความปลอดภัย แต่การผ่าตัดกระเพาะ ราคาเป็นวิธีการตัดเอาเนื้อกระเพาะ ตามแนวยาวของกระเพาะออกบางส่วน เพื่อลดขนาดกระเพาะอาหารให้เล็กลง ด้วยการผ่าตัดด้วยกล้องแผลน้อย เพื่อให้รับประทานได้น้อยลง สำหรับผู้ที่เป็นโรคอ้วน จะช่วยลดปริมาณอาหารที่รับประทานเข้าไป ซึ่งการตัดกระเพาะจะทำให้ผู้ที่ตัดกระเพาะไปแล้วนั้น สามารถประสบความสำเร็จในการลดน้ำหนัก ได้เป็นอย่างดี ที่สำคัญยังมีความปลอดภัยสำหรับคนอ้วนอีกด้วย
การผ่าตัดกระเพาะ สามารถลดน้ำหนักให้กับคนอ้วนได้จริงหรือ
สำหรับการผ่าตัดกระเพาะเพื่อลดน้ำหนักสำหรับคนอ้วน สามารถลดน้ำหนักได้จริง เพราะการผ่าตัดกระเพาะจะทำให้กระเพาะมีขนาดเล็กลง ส่งผลให้สามารถรับประทานอาหารได้น้อยลง ทำให้มีส่วนช่วยให้น้ำหนักลดลงได้ ในขณะเดียวกันผู้ที่เข้ารับการผ่าตัดก็ควรที่จะมีการออกกำลังกาย ควบคู่ไปกับการเลือกรับประทานอาหารที่มีประโยชน์ เพื่อสุขภาพที่ดีด้วย ส่วนในเรื่องของผลลัพธ์หลังการผ่าตัดก็ขึ้นอยู่กับผู้รับการผ่าตัด โดยอาจจะได้ผลลัพธ์ไม่เท่ากันในแต่ละราย และขึ้นกับเทคนิคการผ่าตัดที่เลือกใช้
ใครเหมาะสมกับการผ่าตัดกระเพาะ
- เป็นโรคอ้วน และมี BMIสูง มากกว่า 40 ขึ้นไป
- มี BMI ระหว่าง 30 – 40 แต่มีภาวะที่เกี่ยวข้องกับโรคอ้วน เช่นโรคเบาหวานประเภท 2 หรือความดันโลหิตสูง
- อายุไม่เกิน 65 ปี
- สุขภาพร่างกายแข็งแรงพอที่จะ ดมยาสลบได้
- เป็นคนอ้วน ที่เคยลดน้ำหนักวิธีต่าง ๆ แล้วไม่ได้ผล เช่นการอดอาหาร การออกกำลังกาย หรือใช้ยา
- มีวินัยในการดูแลสุขภาพ ควบคุมการรับประทานอาหาร ปฏิบัติตามคำแนะนำของแพทย์และโภชนากร และ พบแพทย์ตามนัดทุกครั้ง
ต้องมาปรึกษาแพทย์หากคุณคิด ว่าการผ่าตัดลดน้ำหนักอาจเป็นทางเลือกที่ดีสำหรับคุณ หากคุณมีคุณสมบัติที่พร้อมสำหรับการรักษา เราสามารถแนะนำคุณเพื่อรับการประเมินเพื่อตรวจสอบในการผ่าตัดได้
การเตรียมตัวก่อนผ่าตัดกระเพาะจะต้องเตรียมตัวอย่างไร
ก่อนเข้ารับการผ่าตัดผู้ป่วยจะต้อง
- ตรวจร่างกายโดยละเอียด เช่น ตรวจเลือด, อัลตราซาวด์, เอกซเรย์, ตรวจคลื่นไฟฟ้าหัวใจ, ตรวจสมรรถภาพปอด เป็นต้น
- ส่องกล้องตรวจกระเพาะอาหารให้มั่นใจว่าไม่มีความผิดปกติใด ๆ ของกระเพาะอาหาร ก่อนที่จะทำการผ่าตัด
- เตรียมความพร้อมด้านโภชนาการจากนักกำหนดอาหาร โดยจะมีประเมินและการปรับการรับประทานอาหารหลังทำการผ่าตัด
- ทดสอบสภาพจิตใจกับนักจิตวิทยาเพื่อให้มั่นใจว่าไม่มีโรคทางจิตเวชสำคัญที่ห้ามการผ่าตัด และเตรียมการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมหลังผ่าตัด
- ประเมินภาวะโรคที่มีความเสี่ยงก่อนผ่าตัดเพื่อป้องกันผลกระทบที่เกิดขึ้น เช่น โรคหัวใจ โรคเบาหวาน โรคความดันโลหิตสูง เป็นต้น
- ตรวจการนอนหลับ STOP – BANG และตรวจวินิจฉัยการนอนหลับ Sleep Test
- เรียนรู้วิธีออกกำลังก่อนและหลังผ่าตัดอย่างถูกต้องกับแพทย์เวชศาสตร์ฟื้นฟู
- งดสูบบุหรี่ก่อนผ่าตัด 4 สัปดาห์
- งดน้ำและอาหารก่อนเข้ารับการผ่าตัด 6 – 8 ชั่วโมง ถ้าต้องทานยาให้เป็นไปตามที่แพทย์สั่ง
- หากไม่แน่ใจว่าตั้งครรภ์ควรแจ้งแพทย์และพยาบาล
- ถ้าอยู่ในระหว่างรับประทานยา อาหารเสริม สมุนไพร ควรปรึกษาแพทย์ว่าสามารถรับประทานชนิดใดและต้องหยุดชนิดใดก่อนผ่าตัด
- กรุณาแจ้งแพทย์หากรับประทานยาที่มีผลต่อการแข็งตัวของเลือด หรือประวัติการเจ็บป่วยเกี่ยวกับโรคหลอดเลือด
- ผู้ป่วยทุกรายจะได้รับยาฉีดป้องกันการเกิดลิ่มเลือดอุดตันก่อนการผ่าตัดกระเพาะอาหาร 12 ชั่วโมง
หลังการผ่าตัดจะต้องดูแลตัวเองอย่างไร
หลังเข้ารับการผ่าตัดผู้ป่วยจะต้อง
- รับสารอาหารและน้ำทางสายน้ำเกลือจนกว่าจะรับประทานอาหารเองได้
- ใส่ปลอกสวมขาเพื่อป้องกันภาวะแข็งตัวในเส้นเลือดดำ โดยถอดออกเมื่อผู้ป่วยขยับตัวได้เอง และเมื่อขยับตัวได้ควรเริ่มเคลื่อนไหวร่างกายโดยเร็ว เพื่อให้ทำกิจวัตรประจำวันได้ปกติภายใน 2 – 3 วัน
- หากมีอาการแทรกซ้อนต่าง ๆ ปรึกษาแพทย์ทันที เช่น อัตราการเต้นของหัวใจ > 120 ครั้ง ต่อนาที, มีไข้ 37.8 องศาเซลเซียส หรือมีอาการปวดท้องอย่างรุนแรง
- ควบคุมอาหารตามที่นักกำหนดอาหารวางแผนและให้คำปรึกษาอย่างเคร่งครัด
- การรับประทานอาหารหลังผ่าตัด แบ่งออกเป็น
- หลังผ่าตัดสัปดาห์แรก รับประทานได้เฉพาะอาหารเหลวครั้งละน้อย ๆ แต่บ่อย ได้แก่ เครื่องดื่มที่ไม่อัดลมและไม่เติมน้ำตาล ซุปใส น้ำผัก น้ำผลไม้ โยเกิร์ต เป็นต้น
- หลังผ่าตัดสัปดาห์ที่ 3 รับประทานอาหารชิ้นเล็ก ๆ โดยดื่มน้ำก่อนทานอาหาร 15 – 30 นาที เช่น ข้าวต้ม เป็นต้น เพื่อเตรียมปรับสู่การทานอาหารปกติ โดยทานปริมาณน้อย เคี้ยวให้ละเอียดก่อนกลืน
- สามารถเริ่มออกกำลังเบา ๆ ได้ตั้งแต่สัปดาห์ที่ 2 หลังการผ่าตัด และงดยกของหนัก 3 เดือน
- พบแพทย์ตามนัดอย่างเคร่งครัดเพื่อตรวจเช็คร่างกาย
ประโยชน์ที่คุณจะได้รับเมื่อคุณทำการผ่าตัดกระเพาะมีอะไรบ้าง
- ทานอาหารได้น้อยลง ประหยัดค่าใช้จ่าย
- มั่นใจในรูปร่างของตัวเอง
- ลดโรคที่เกิดจากโรคอ้วน
- ใส่เสื้อผ้าง่ายขึ้น มีความมั่นใจ