กลิ่นตัวแรงเหงื่อเยอะทำไงดี และวิธีป้องกันรักษาทำยังไง

กลิ่นตัวแรงเหงื่อเยอะทำไงดี และวิธีป้องกันรักษาทำยังไง

กลิ่นตัวแรงเหงื่อเยอะทำไงดี ปัญหาที่ไม่มีใครอยากให้เกิดขึ้นกับตัวเอง เมื่อเกิดขึ้นแล้วก็ต้องหาวิธีรักษา แต่ก่อนที่จะหาวิธีรักษาเราต้องมาหาต้นตอของการเกิดกลิ่นตัวกันก่อนว่าเกิดขึ้นจากสิ่งใด เมื่อเราทราบสาเหตุแล้วการป้องกันและการรักษาก็ไม่น่าจะใช่เรื่องยาก เรามาดูกันเลยดีกว่าว่ากลิ่นตัวแรง และ เหงื่อเยอะ เกิดจากสาเหตุใด และควรจะทำอย่างไรกับมันดี

สาเหตุของการเกิดกลิ่นตัว

กลิ่นตัวเกิดจากสารที่สร้างมาจากต่อมกลิ่น (apocrine gland) ซึ่งพบมากที่บริเวณรักแร้และหัวหน่าว ต่อมกลิ่นพบได้ตั้งแต่เกิดแต่จะเริ่มทำงานในช่วงวัยรุ่น ต่อมกลิ่นมีหน้าที่สร้างกลิ่นซึ่งเป็นลักษณะทางเพศแบบหนึ่ง

สารที่หลั่งจากต่อมกลิ่นประกอบด้วย กรดไขมันหลายชนิด (fatty acid, sulfanyl alkanols และ steroid ) มีลักษณะเหลวข้นไม่มีกลิ่น เมื่อหลั่งออกมาด้านนอกของผิวหนังสารดังกล่าวจะถูกเชื้อแบคทีเรีย (Corynebacteria spp.) เปลี่ยนให้เป็นสารที่มีกลิ่นซึ่งคือแอมโมเนียและกรดไขมันสายสั้น

กลิ่นตัวจะมาจากต่อมกลิ่น ต่างกับเหงื่อที่มาจากต่อมเหงื่อ กลิ่นตัวอาจมาร่วมกับภาวะเหงื่อออกมากหรือไม่ก็ได้ ขึ้นอยู่กับสภาพของแต่ละบุคคล ปกติเหงื่อที่หลั่งมาจากต่อมเหงื่อจะไม่มีกลิ่น แต่บางกรณีอาจทำให้เหงื่อมีกลิ่นได้ เช่น รับประทานกระเทียม แกง หรือยาบางชนิด

ส่วนในกรณีที่มีเหงื่อออกเยอะมาจากภาวะที่ร่างกายขับเหงื่อออกทางผิวหนังมากผิดปกติ ซึ่งอาจเกิดจากความบกพร่องของระบบประสาท ระดับฮอร์โมนที่ผิดปกติ การเจ็บป่วยต่าง ๆ หรืออาจเป็นผลข้างเคียงของยาบางชนิด ซึ่งไม่ได้เกิดจากสภาพอากาศ หรือการออกกำลังกาย ซึ่งผู้ที่มีเหงื่อออกเยอะอาจต้องใช้ยาช่วยควบคุมการหลั่งเหงื่อเพื่อรักษาอาการในเบื้องต้น แต่ในรายที่มีอาการรุนแรงอาจต้องเข้ารับการรักษาด้วยวิธีอื่น ๆ

บทความแนะนำ ลดพุง By Rattinan.com

การรักษาและป้องกันการมีกลิ่นตัวและเหงื่อออกเยอะ

  • หลีกเลี่ยงภาวะที่ร้อนจัด ภาวะอบอับชื้น
  • การรักษาสุขอนามัยให้สะอาด การล้างบริเวณรักแร้บ่อย ๆ ด้วยน้ำสะอาดจะลดปริมาณสารก่อกลิ่นที่หลั่งจากต่อมกลิ่นได้
  • การใช้ยาระงับกลิ่นกาย(deodorants)  ซึ่งจะมีส่วนประกอบหลายอย่าง เช่น สารลดเหงื่อ สารฆ่าเชื้อแบคทีเรีย สารลดกลิ่นที่สร้างขึ้น และน้ำหอมจะช่วยลดกลิ่นตัวได้
  • การใช้ยาระงับเหงื่อ(antiperspirants) ส่วนมากจะมีส่วนประกอบของโลหะเช่น อลูมิเนียมคลอไรด์  ( aluminium chloride) ซึ่งจะไปอุดท่อต่อมเหงื่อ ลดการหลั่งเหงื่อ ทำให้ผิวหนังแห้งและแบคทีเรียที่ก่อกลิ่นตัวเติบโตไม่ดี สามารถช่วยลดกลิ่นตัวได้
  • การโกนขนบริเวณรักแร้เพื่อป้องกันแบคทีเรียและการสะสมของสารก่อกลิ่น
  • สบู่ฆ่าเชื้อ เพื่อลดแบคทีเรีย
  • การฉีดโบท๊อก เพื่อลดการสร้างสารก่อกลิ่น

โบท๊อกระงับกลิ่น
การฉีดโบท๊อก (BOTOX) เพื่อรักษาภาวะเหงื่อออกเฉพาะที่ โดยการฉีดโบท๊อกเข้าไปบริเวณที่มีเหงื่อออกมาก โบท๊อกจะออกฤทธิ์โดยการไปยับยั้งสาร Acetylcholine ที่หลั่งออกมาควบคุมระบบประสาทที่ทำให้เกิดการหลั่งของเหงื่อ วิธีนี้สามารถลดเหงื่อได้ 83% ซึ่งถ้าอาการเหงื่อออกมากลดลงแล้ว ส่งผลช่วยลดภาวะกลิ่นตัวด้วย

ผลลัพธ์ที่ได้จะเริ่มเห็นผลหลังการฉีดประมาณ 2 – 4 สัปดาห์ ผลการรักษาจะอยู่ได้ประมาณ 6 – 8 เดือน ทั้งนี้ขึ้นกับบุคคล ผลข้างเคียงน้อยมาก อาจมีอาการบวม แดง รอยช้ำ ซึ่งเป็นอยู่ไม่นาน ประมาณ 3 – 7 วัน ก็หายไป หลังฉีดไม่ต้องพักฟื้น สามารถใช้ชีวิตประจำวันได้ตามปกติ
นอกจากนี้ยังมีอีกทางเลือกในการกำจัดกลิ่นที่ได้ผลดี คือ การใช้วิธีเลเซอร์ด้วยเครื่อง miradry ซึ่งเป็นเทคโนโลยีใหม่ล่าสุดจากสหรัฐอเมริกา เป็นเทคโนโลยีที่ช่วยในการแก้ปัญหาในเรื่องของเหงื่อออกรักแร้และกลิ่นตัวบริเวณใต้วงแขน โดยการใช้พลังงานคลื่น ในการทำลาย ต่อมเหงื่อ และต่อมกลิ่นใต้วงแขน

ยังสามารถกำจัดรากขนบางส่วนได้อีกด้วย เรียกได้ว่าเป็นเทคโนโลยีที่สามารถแก้ไขปัญหาได้ครอบคลุมมากที่สุด  อีกทั้งยังสามารถแก้ไขปัญหาได้ถาวร โดยไม่จำเป็นต้องทำซ้ำหลายครั้ง และยังมีความปลอดภัยสูง

ผลลัพธ์ที่ได้ส่วนใหญ่แล้ว กว่า 90% ของผู้ที่เข้ารับบริการ จะได้ผลลัพธ์ที่พึงพอใจและประสบความสำเร็จในการทำเป็นอย่างมาก โดยเฉพาะกับผู้ที่ไม่เคยแก้ไขปัญหา เหงื่อออกรักแร้ และกลิ่นตัวด้วยวิธีการผ่าตัดอื่น ๆ มาก่อน

บทความแนะนำ ฉีดสลายไขมัน VS ตัดไขมันกระพุ้งแก้ม จาก Rattinan.com

บทสรุป

กลิ่นตัวแรงเหงื่อเยอะทำไงดี เมื่อเกิดขึ้นแล้วก็คงต้องหาวิธีป้องกันและรักษา ซึ่งปัจจุบันนี้การรักษาด้วยวิธีทางการแพทย์กับสถานบริการศัลยกรรมจะใช้วิธีการยิงเลเซอร์ miradry ที่เห็นผลลัพธ์ที่ดีและมีความปลอดภัยสูง แต่ก่อนที่จะเข้ารับบริการท่านจะต้องทำการศึกษาข้อมูลให้ละเอียดไม่ว่าจะเป็นสถานบริการ แพทย์ผู้ให้บริการที่ต้องมีความชำนาญการ และที่สำคัญที่สุดคือเรื่องของค่าใช้จ่าย