ทําตาสองชั้น เป็นการศัลยกรรมที่สาว ๆ นิยมทำกันมากที่สุด โดยเฉพาะสาว ๆ ที่มีตาชั้นเดียว โดยการทำตาสองชั้นนั้น เป็นการทำศัลยกรรมที่เปลือกตา โดยการกรีดเปลือกตา แล้วเย็บหนังตากลับเข้าด้วยกันเพื่อทำให้เกิดชั้นตาขึ้นมา ทั้งนี้อาจรวมถึงการผ่าตัดเอาผิวหนังและไขมันบริเวณชั้นตาที่มีมากเกินออกไปด้วย ชาวเอเชียถึงประมาณ 50 เปอร์เซ็นต์มีตาชั้นเดียว จึงทำให้การศัลยกรรมเสริมความงามด้วยการทำตาสองชั้นนี้เป็นที่นิยมมากเป็นอันดับหนึ่งในทวีปเอเชีย เนื่องจากจะทำให้ใบหน้าดูมีชีวิตชีวา และยังช่วยให้การแต่งหน้าง่ายขึ้นอีกด้วย
ใครบ้างที่สามารถทำตาสองชั้นได้ ?
สำหรับการทำตาสองขั้น สามารถทำได้ทุกเพศ แต่เพศที่ทำศัลยกรรมเกี่ยวกับตาสองชั้นจะเป็นเพศหญิงมากกว่าเพศชาย โดยเฉพาะวัยรุ่นอายุประมาณ 20 ปีต้น ๆ ส่วนผู้ชายที่ต้องการทำตาสองชั้นก็พบได้บ้าง โดยมากอยู่ในช่วงอายุ 20 ตอนปลายถึงช่วง 30 ตอนต้น สาเหตุของการทำตาสองชั้นในผู้หญิงอาจมาจากตาชั้นเดียวที่ทำให้แต่งหน้าลำบาก หรือคนที่ติดสติ๊กเกอร์ตาสองชั้นเป็นประจำและไม่อยากเสียเวลายุ่งยากอีกต่อไป ส่วนคนที่มีอายุสูงขึ้นมาอาจต้องการทำตาสองชั้นเนื่องจากหนังตาชั้นบนเริ่มหย่อยคล้อยและบดบังการมองเห็นของดวงตา
แต่การทำตาสองชั้นนั้น ผู้ที่จะทำได้ต้องมีสุขภาพที่แข็งแรงสมบูรณ์ ก่อนที่จะทำแพทย์ยังต้องพิจารณาและตรวจร่างกายของคนไข้อย่างละเอียดอีกครั้ง โดยควรมีอายุมากพอที่จะใช้ยาระงับประสาทแบบรับประทานหรือฉีดเข้าทางหลอดเลือดดำ รวมถึงมีความเข้าใจและยอมรับความเสี่ยงหรือภาวะแทรกซ้อนที่อาจเกิดขึ้นหลังจากผ่าตัดได้ หากเป็นวัยรุ่นอายุ 15-16 ปี แพทย์ยิ่งต้องดูวุฒิภาวะ เพราะวัยรุ่นหลาย ๆ คนในช่วงวัยนี้อาจยังไม่พร้อมเผชิญปัญหาจากภาวะแทรกซ้อนที่มีโอกาสเกิดขึ้น และหากทำก็ควรเลือกขั้นตอนที่ง่ายและมีโอกาสผิดพลาดได้น้อยที่สุด
การทำตาสองชั้นในปัจจุบันสามารถทำได้กี่วิธี
ในปัจจุบัน การทำตาสองชั้น มีหลากหลากวิธีและเทคนิคที่แตกต่างกันออกไปตามความถนัดของจักษุแพทย์แต่ละท่าน และตามความเหมาะสมกับดวงตาของแต่ละคน ไม่ว่าจะเป็นการทำตาสองชั้นในผู้หญิงหรือทำตาสองชั้นในผู้ชาย การเลือกวิธีที่เหมาะสมกับลักษณะของดวงตาเป็นปัจจัยอย่างหนึ่งที่มีความสำคัญมาก เรามาดูกันว่าการทำตาสองชั้นสามารถทำวิธีใดได้บ้าง และแต่ละวิธีเหมาะกับลักษณะดวงตาแบบไหน
การทำตาสองชั้น วิธีเลเซอร์
ใช้เลเซอร์ที่มีชื่อว่า Plexr (เพล็กเซอร์) คุณสมบัติคือใช้คลื่น plasma ให้ผิวหนังบริเวณเปลือกตาส่วนที่หย่อนคล้อยหายไป เหมาะกับคนที่ตาสองชั้นอยู่แล้ว แต่มีหนังตาหย่อนคล้อย หนังตาตก เล็กน้อย และยังไม่อยากผ่าตัด โดยไม่ต้องกลัวเรื่องรอยแผลเป็น หรือผลข้างเคียงอื่น ๆ ไม่ทำอันตรายกับเนื้อเยื่อหรือบริเวณข้างเคียง สามารถทำได้กับทุกสภาพสีผิว
พลังงาน Plasma จะแตกต่างจากพลังงานเลเซอร์ (พลังงานเลเซอร์จะพลังงานสูง ลงลึก ทำให้เกิดแผลเป็นได้ง่ายกว่า) Plasma จะให้ความร้อนที่ผิวหนังที่เพียงประมาณ 60 องศาเซลเซียส แต่สามารถทำให้ผิวหนังส่วนที่ตกหรือที่หย่อนคล้อยไม่มากหายไปได้ และเกิดเป็นชั้นตา
การทำตาสองชั้น วิธีเลเซอร์ เหมาะกับใคร
- คนที่มีชั้นตาอยู่แล้ว แต่มีหนังตาตกหรือหย่อนลงมาเล็กน้อย เพราะตัว Plexr สามารถจี้เก็บหนังตรงชั้นตา ทำให้ชั้นตาชัดขึ้นได้
- คนที่ยังไม่อยากผ่าตัด
การ ทำตาสองชั้น แบบเย็บ 3 จุด (Suture Technique)
คือการทำตาสองชั้นโดยไม่ต้องกรีด จะใช้วิธีเย็บชั้นที่เปลือกตาโดยเจาะเป็นรูที่เปลือกตา 3 จุด ไม่เป็นแผลกรีด เป็นวิธีการทำตาสองชั้นที่นิยมทำกันมากวิธีหนึ่ง เหมาะกับเคสที่มีตาชั้นเดียว หนังตาและไขมันไม่หนา ไม่หย่อนคล้อย เวลาหลับตาจะเนียนไม่เห็นแผล แต่ต้องระวังในเรื่องของชั้นตาที่อาจจะหลุดง่าย และการเย็บทะลุเปลือกตา
การทำตาสองชั้น แบบเย็บ 3 จุด เหมาะกับใคร
- คนที่มีตาชั้นเดียว โดยที่หนังและไขมันบริเวณเปลือกตาไม่หนา
- วัยรุ่น หรือคนที่ผิวบริเวณเปลือกตาไม่หย่อนคล้อย
การ ทำตาสองชั้น แบบแผลเล็ก (Small Incision Technique)
เป็นการทำตาสองชั้น โดยกรีดแผลที่เปลือกตาขนาด 3-5 mm (แล้วแต่เทคนิคของศัลยแพทย์แต่ละท่าน) ในกรณีคนไข้มีปริมาณหนังตาและไขมันที่เปลือกตาไม่มากเกินไป ก็จะสามารถทำตาด้วยเทคนิคแผลเล็กได้ เป็นการผ่าตัดที่รบกวนต่อเนื้อเยื่อเปลือกตาน้อย ทำให้การบวมหลังผ่าตัดน้อยมาก
การทำตาสองชั้น แบบแผลเล็ก เหมาะกับใคร
- คนที่ปริมาณหนังตา และไขมันบริเวณเปลือกตาไม่มากเกินไป
- วัยรุ่น หรือคนที่ผิวบริเวณเปลือกตาไม่หย่อนคล้อย
การทำตาสองชั้น แบบแผลยาว
คล้ายกับการทำตาสองชั้นแบบแผลเล็ก แต่เป็นการกรีดแผลยาวขึ้น เพื่อให้สามารถเย็บชั้นตาได้ตลอดแนว โดยไม่ได้ตัดหนังตาส่วนเกินออก วิธีนี้ผลลัพธ์ไม่แตกต่างจากการทำแบบแผลเล็กแต่รอยแผลยาวกว่า บวมนานกว่า
การทำตาสองชั้น แบบแผลยาว เหมาะกับใคร
- คนที่ปริมาณหนังตา และไขมันบริเวณเปลือกตาไม่มากเกินไป
- วัยรุ่น หรือคนที่ผิวบริเวณเปลือกตาไม่หย่อนคล้อย
การทำตาสองชั้น แบบกรีดยาวร่วมกับตัดหนังส่วนเกินออก
เป็นการทำตาสองชั้นแบบกรีดยาวเพื่อให้สามารถออกแบบชั้นตาได้ตลอดแนว วิธีนี้จะสามารถเอาไขมันส่วนเกินออก ตัดหนังตาส่วนเกินที่หย่อนคล้อยและลงมาบังชั้นตาออกได้ด้วย เป็นเทคนิคที่สามารถใช้ได้กับทุกวัย ไม่ว่าจะวัยรุ่น หรือกลุ่มคนสูงอายุ คนที่มีชั้นตาอยู่แล้วแต่รู้สึกว่ายังไม่ค่อยชัด ก็สามารถใช้วิธีนี้ได้
การทำตาสองชั้น ร่วมกับตัดหนังตาส่วนเกินออก เหมาะกับใคร
- เหมาะกับทุกเคส ทั้งวัยรุ่น และวัยที่มีความหย่อนคล้อย
- คนที่มีหนังตาตก มีหนังตาและไขมันบริเวณเปลือกตามาก
- คนที่มีชั้นตาอยู่แล้ว แต่อยากให้ชัดขึ้นอีก
การ ทำตาสองชั้น ร่วมกับ เปิดหัวตา
การเปิดหัวตา คือการผ่าตัดตกแต่งหนังตาที่ปิดบริเวณหัวตา เพื่อให้บริเวณหัวตาดูกว้างขึ้น เห็นชั้นตาบริเวณหัวตาชัดขึ้น รูปร่างตาดูยาวขึ้น ความโค้งของชั้นตาบริเวณหัวตาดูเป็นธรรมชาติมากขึ้น โดยเฉพาะในเคสที่หนังตาลงมาปิดบริเวณหัวตา ทำให้ตาดูเหล่ การเปิดหัวตานี้ก็จะช่วยได้ แต่หากคนใดที่มีมุมหัวตาที่เปิดอยู่แล้วก็ไม่มีความจำเป็นที่จะเปิดหัวตา
การทำตาสองชั้นและเปิดหัวตาร่วมด้วย คุณหมอจะพิจารณาความจำเป็นและความเหมาะสมในแต่ละคน ไม่ใช่ทุกคนที่ต้องการทำตาสองชั้นแล้วจะมีความจำเป็นต้องเปิดหัวตาร่วมด้วย
การทำตาสองชั้น ร่วมกับเปิดหัวตา เหมาะกับใคร
- คนที่หนังตาลงมาปิดบริเวณหัวตามาก ทำให้ตาดูเหล่
- คนที่อยากได้ชั้นตาใหญ่ แต่มีหัวตาปิด
การ ทำตาสองชั้น ร่วมกับ ย้ายไขมันแก้ไขเบ้าตาลึก
การที่มีเบ้าตาลึกนั้น จะไม่สามารถทำตาสองชั้นธรรมดาทั่วไปได้ เพราะหลังทำจะไม่มีชั้นตา เบ้าตาจะยังลึกเหมือนเดิม การทำตาสองชั้นในคนที่เบ้าตาลึกนั้น คุณหมอจะต้องประเมินวิธีการที่จะแก้ไขเบ้าตาลึกในแต่ละคนแตกต่างกัน ซึ่งต้องพิจารณาอย่างละเอียด เบ้าตาลึกเหมือนกัน แต่ละคนต่างกันคุณหมอจะเลือกใช้วิธีที่แตกต่างกัน
การทำตาสองชั้น ร่วมกับย้ายไขมันแก้ไขเบ้าตาลึก เหมาะกับใคร
- คนที่เบ้าตาลึก หรือตาเป็นร่องบริเวณเหนือเปลือกตา
ภาวะแทรกซ้อนจากการผ่าตัด
กระบวนการผ่าตัดใด ๆ ก็ตามล้วนมีความเสี่ยงต่อการมีเลือดออกมาก เกิดลิ่มเลือดขึ้นในหลอดเลือดดำ เสี่ยงต่อการติดเชื้อและแพ้ยาชาได้ ส่วนภาวะข้างเคียงเฉพาะการผ่าตัดชั้นหนังตาที่มีโอกาสเกิดขึ้น ได้แก่
- ตาพร่าหรือมองเห็นภาพซ้อนชั่วคราว
- ดวงตาทั้งสองข้างอาจดูไม่สมมาตรกัน
- ชั้นหนังตาพับผิดปกติหรือเป็นรอยพับไม่ชัด
- หนังตาตก
- หนังตาบนร่นขึ้น
- สีของชั้นหนังตาไม่สม่ำเสมอ
- มีเลือดสะสมใต้ชั้นผิวหนัง มักหายไปได้เองในไม่กี่สัปดาห์
- รอยแผลเป็นที่สังเกตเห็นได้