เซลลูไลท์ เป็นไขมันที่สะสมอยู่ใต้ผิวหนัง ทำให้ผิวหนังมีลักษณะเป็นคลื่น ไม่เรียบเนียน ส่วนมากเซลลูไลท์มักจะเกิดขึ้นที่ต้นขา สะโพก และท้อง สามารถเกิดบริเวณหน้าอก ท้องน้อย และต้นแขน ได้เช่นกันโดยส่วนมากจะเกิดในวัยรุ่นหรือวัยผู้ใหญ่เพศหญิง เซลลูไลท์ไม่เป็นอันตราย แต่ใครหลายคนอาจอยากกำจัดออกไป เพื่อภาพลักษณ์ที่ดูดีของตนเอง ซึ่งสามารถปรึกษากับแพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านผิวหนังหรือศัลยแพทย์เพื่อหาทางแก้ไขได้ และวันนี้เรามีวิธีการลดเซลลูไลท์ที่ทุกคนสามารถทำได้ง่าย ๆ มาฝากกัน เพื่อช่วยให้คุณมีขาที่เรียบเนียนได้ พร้อมแล้วเราไปดูรายละเอียดจากบทความนี้กันเลย
เซลลูไลท์เกิดขึ้นจากอะไร ?
ปัจจุบันยังไม่ทราบสาเหตุชัดเจน ทางการแพทย์เชื่อว่าเกิดจากการสะสมของไขมันที่มากเกินไปใต้ชั้นผิวหนังตื้น ๆ ในบริเวณที่เลือดไหลเวียนไม่ดี จนทำให้ผนังชั้นหุ้มเซลล์เกิดผิวที่ขรุขระแตกลาย ดูไม่สวยงาม คล้ายกับผิวเปลือกส้ม ส่วนปัจจัยเสี่ยงอื่นที่ส่งผลค่อนข้างมาก คือ กรรมพันธุ์ ซึ่งหากมีสมาชิกในครอบครัวมีเซลลูไลท์ สามารถทำให้มีโอกาสเกิดเซลลูไลท์ได้เช่นกัน โดยปัจจัยที่ทำให้เกิดเซลลูไลท์มากหรือน้อยอาจขึ้นอยู่กับปัจจัยอื่น ๆ ดังต่อไปนี้
- การรับประทานอาหารที่มีไขมันและน้ำตาลสูง หรือการอดอาหารอย่างหนักเพื่อให้น้ำหนักตัวลดลงอย่างรวดเร็ว
- ระบบการเผาผลาญในร่างกายช้า
- ขาดการออกกำลังกาย
- การเปลี่ยนแปลงของฮอร์โมน
- ภาวะขาดน้ำ
- อัตราส่วนของไขมันในร่างกาย
เซลลูไลท์ไม่ได้เกิดเฉพาะในคนที่มีน้ำหนักตัวมากเท่านั้น คนผอมที่มีน้ำหนักตัวน้อยก็สามารถมีได้เช่นกัน และเกิดขึ้นในเพศหญิงมากกว่าเพศชาย
วิธีลดเซลลูไลท์ทำได้ง่าย ๆ
- ออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ การออกกำลังกายนอกจากจะทำให้ร่างกายแข็งแล้ว ยังช่วยทำให้ระบบในร่างกายเกิดความสมดุลอีกด้วย แต่การออกกำลังกายที่ดีควรจะเป็นการเดินเร็ว ๆ ว่ายน้ำ ปั่นจักรยาน กระโดดเชือก เต้นแอโรบิก และการออกกำลังกายใต้น้ำ ครั้งละ 30-40 นาทีขึ้นไป อย่างน้อยสัปดาห์ละ 3 ครั้ง การออกกำลังกายจะช่วยเผาผลาญไขมันในร่างกายออกไป ช่วยควบคุมน้ำหนักให้อยู่ในเกณฑ์ที่เหมาะสม ทำให้กล้ามเนื้อตามส่วนต่าง ๆ ของร่างกายแข็งแรงขึ้น แต่สำหรับคนที่ไม่มีเวลา ขอให้คุณใช้เวลาพักหรือเวลาที่ต้องทำงานให้เป็นประโยชน์ ด้วยการขึ้นลงบนไดแทนการขึ้นลิฟต์ ทำงานบ้าน เป็นต้น
- ควบคุมอาหาร คุณควรลดละเลิกทั้งของหวานจัดและมันจัด แป้ง ไอศกรีม นมที่มีมันเนยสูง อาหารเค็มจัด และอาหารที่ผ่านกระบวนการแปลงสภาพ เช่น ไส้กรอก แฮม เบคอน เพราะสิ่งเหล่านี้จะทำให้ร่างกายของเรามีไขมันสะสมเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ และให้หันมาควบคุมอาหารในแต่ละวัน กินอาหารที่มีประโยชน์และมีไขมันต่ำ ดื่มน้ำเปล่าสะอาด ๆ ให้ได้วันละ 8 แก้ว (ถ้าเหงื่อออกมากก็ต้องดื่มให้มากกว่านี้) ก็จะช่วยขับพิษที่ติดตามเนื้อเยื่อในรูปของไขมันส่วนเกินออกจากร่างกาย และเป็นการขจัดเซลลูไลท์ออกไปด้วย รวมทั้งควรลดหรือเลิกการดื่มน้ำอัดลม กาแฟ แอลกอฮอล์ และงดการสูบบุหรี่ เพราะจะไปทำให้ร่างกายเสียสมดุล เนื่องจากมีสารอนุมูลอิสระมาก ทำลายเซลล์ และสะสมกลายเป็นพิษ ร่างกายขับออกได้ยาก
- กินผักและผลไม้สดมาก ๆ นักธรรมชาติบำบัดเชื่อว่า การรับประทานผักและผลไม้สดจะช่วยลดเซลลูไลท์ที่เกิดขึ้น และช่วยป้องกันการเกิดใหม่ของเซลลูไลท์ได้มากถึงร้อยละ 75 (แต่ควรเลี่ยงผลไม้ที่มีรสหวานจัด) เนื่องจากผักและผลไม้จะอุดมไปด้วยเกลือแร่ วิตามิน สารพฤกษเคมี สารต้านอนุมูลอิสระ ที่สามารถช่วยกระตุ้นตับให้ขับพิษได้ดี ช่วยทำให้เซลล์ต่าง ๆ ในร่างกายทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ
- อยู่ในอิริยาบถที่ถูกต้อง เราไม่ควรอยู่ในท่าใดหนึ่งนานเกินไป แต่ควรหันมาเดินขึ้นบันไดแทนการขึ้นลิฟต์ในระหว่างการทำงาน หรือควรลุกเดินไปมาอยู่เสมอเพื่อกระตุ้นการกำจัดของเสียระหว่างวัน โดยเฉพาะคนที่ทำงานในออฟฟิศ ยิ่งควรจะนั่ง ยืน และเดินให้ถูกต้อง ไม่นั่งไขว่ห้าง เพราะจะทำให้เกิดเซลลูไลท์ได้ง่าย
- กำจัดของเสียในปอด ด้วยการฝึกลมหายใจลึกยาวเพื่อให้เนื้อเยื่อได้รับออกซิเจนอย่างเพียงพอ ซึ่งออกซิเจนจะให้ชีวิต ให้ความกระชุ่มกระชวยกับเซลล์ในร่างกาย ไม่เฉพาะแต่เซลล์สมองเท่านั้น แต่ออกซิเจนยังช่วยเผาผลาญพลังงานเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพอีกด้วย
วิธีกำจัดเซลลูไลท์ที่ได้ผลจริง
เซลลูไลท์ คือไขมันที่อยู่ใต้ผิวหนังซึ่งทำให้ผิวมีลักษณะเป็นรอยบุ๋ม ขรุขระหรือเกิดรอยย่น มักเกิดขึ้นที่ต้นขา สะโพก ก้น ท้อง หน้าอก ท้องน้อย และต้นแขน ส่วนใหญ่มักจะเกิดในวัยรุ่นหรือวัยผู้ใหญ่เพศหญิง เซลลูไลท์ไม่ก่อให้เกิดอันตรายแต่อย่างใด แต่อาจทำให้ผิวหนังดูไม่เรียบเนียน ทำให้ผู้ที่มีเซลลูไลท์เกิดความไม่มั่นใจได้ ทางการแพทย์เชื่อว่าเซลลูไลท์เกิดจากการสะสมของไขมันใต้ชั้นผิวหนังบริเวณที่เลือดไหลเวียนไม่ค่อยดี ทำให้ผนังชั้นหุ้มเซลล์เกิดผิวที่ขรุขระแตกลาย ดูไม่สวยงาม คล้ายกับผิวเปลือกส้ม โดยปัจจัยที่ทำให้เกิดเซลลูไลท์มากหรือน้อยอาจขึ้นอยู่กับ การรับประทานอาหารที่มีไขมันและน้ำตาลสูง การอดอาหารอย่างหนักลดน้ำหนัก การทำงานของระบบเผาผลาญในร่างกายที่ล่าช้า การไม่ออกกำลังกายการเปลี่ยนแปลงของฮอร์โมนบางชนิด การที่ร่างกายอยู่ในภาวะขาดน้ำ ปริมาณของไขมันในร่างกาย แต่เซลลูไลท์ไม่ได้เกิดขึ้นในคนอ้วนเท่านั้น คนผอมก็สามารถมีเซลลูไลท์ได้เช่นกัน
ปัจจุบันยังไม่มีวิธีการรักษาใดที่ทำให้เซลลูไลท์หายไปได้อย่างสิ้นเชิง แต่มีวิธีที่สามารถช่วยทำให้ผิวบริเวณที่เกิดเซลลูไลท์แลดูจางลงได้ หรืออย่างน้อยช่วยทำให้หายไปได้ชั่วคราว โดยวิธีรักษาเซลลูไลท์ มีดังต่อไปนี้
- การลดน้ำหนัก การออกกำลังกายหรือการรับประทานอาหารสุขภาพเพื่อลดน้ำหนัก สามารถช่วยทำให้ลักษณะของผิวที่ขรุขระหรือแตกลายดูดีขึ้น แต่การลดน้ำหนักตัวไม่ได้ช่วยทำให้เซลลูไลท์หายไปจนหมดอย่างถาวร แต่ทำให้ผิวดูดีหรือกระชับขึ้นได้เท่านั้น
- เจลลดเซลลูไลท์ วิธีนี้จะเป็นการนวดร่วมกับเจลสลายเซลลูไลท์ โดยเจลจะออกฤทธิ์ช่วยเร่งการเผาผลาญไขมันส่วนเกินตามบริเวณที่ต้องการได้
- เลเซอร์และระบบความถี่คลื่นวิทยุ เป็นการกำจัดเซลลูไลท์ด้วยการละลายไขมันใต้ชั้นผิวหนัง โดยการใช้คลื่นความถี่วิทยุและแสงอินฟาเรด
- การดูดไขมัน เป็นการใช้อุปกรณ์ลักษณะเป็นท่อโลหะขนาดเล็กเป็นเส้นแทรกเข้าไปในชั้นไขมันแล้วทำให้เซลล์ไขมันแตกออกและดูดเอาเซลล์ไขมันออกมา
อย่างไรก็ตาม วิธีการดังกล่าวมีแนวโน้มที่จะพัฒนาให้มีประสิทธิภาพในการช่วยขจัดเซลลูไลท์ในอนาคต แต่วิธีที่ดีที่สุดก็ยังเป็นการออกกำลังกายและการลดน้ำหนัก ซึ่งผู้เชี่ยวชาญต่างยอมรับว่าการออกกำลังกายที่มีประสิทธิภาพดีที่สุดในการช่วยขจัดปัญหาเซลลูไลท์ได้ดีที่สุด