การทำศัลยกรรมเสริมหน้าอกหรือที่ใครมักเรียกสั้น ๆ ว่าการทำนม เป็นสิ่งที่สาว ๆ หลายคนใฝ่ฝันว่าสักครั้งหนึ่งในชีวิตเพื่อเป็นการเพิ่มความมั่นใจให้กับตนเองและยังเป็นการเพิ่มความสวยงามให้กับรูปร่างของตัวเอง แต่ก็จะมีสาว ๆ บางรายที่ยังมีความลังเลถึงผลที่จะตามมา ไม่แน่ใจว่าจะทำดีไหม มีผลข้างเคียงอย่างไร ทำนมที่ไหนดี หรือต้องดูแลตัวเองอย่างไรบ้าง ซึ่งวันนี้เราได้หาข้อมูลมาให้ท่านได้เรียนรู้ก่อนที่จะตัดสินใจทำศัลยกรรมหน้าอก ดังนี้
ก่อนตัดสินใจทำนมผู้เข้ารับบริการต้องรู้อะไรบ้าง
ผู้เข้ารับบริการต้องถามตัวเองก่อนว่าต้องการอะไร ซึ่งปัญหาหลัก ๆ ของคนที่คิดจะทำนมจะมีอยู่ด้วยกัน 2 ข้อคือ
- มีปัญหาขนาดเต้านมเล็ก ไม่สมส่วนกับขนาดของลำตัว เช่น บางคนเป็นคนตัวสูง ไหล่กว้าง ตัวใหญ่ แต่ขนาดเต้านมคัพ A ดูแล้วไม่สมส่วน จึงต้องการเสริมหน้าอกเพื่อแก้ไขจุดบกพร่องในร่างกาย ซึ่งโดยส่วนใหญ่กลุ่มนี้มักจะเป็นกลุ่มอายุ 20-30 ปี
- ต้องการแก้ไขปัญหาหน้าอกหย่อนคล้อยหลังมีบุตร โดยปกติแล้วคุณแม่ตั้งครรภ์หลังมีบุตรและในนมบุตรไประยะเวลาหนึ่งเต้านมจะฝ่อลง มีลักษณะหย่อนคล้อย และดูไม่สวยงามได้รูปเหมือนตอนสาวๆ การทำศัลยกรรมหน้าอกจะช่วยให้รูปทรงหน้าอกกลับมาดูสวยงามและสมส่วนมากขึ้น
ต้องรู้ถึงความแตกต่างของซิลิโคนแต่ละชนิด ซึ่งการแบ่งชนิดของซิลิโคนแบ่งได้หลายแบบ ดังนี้
- แบ่งตามสิ่งที่บรรจุอยู่ข้างใน เช่น แบบบรรจุน้ำเกลือ และแบบบรรจุซิลิโคนเจล
- แบบบรรจุน้ำเกลือ จะเป็นการผ่าตัดเพื่อเอาถุงซิลิโคนเปล่าเข้าไปในเต้านม บริเวณถุงจะมีสายยางต่อออกมาข้างนอกเพื่อส่งน้ำเกลือเข้าไปในถุง เช่น หากเราเลือกถุงขนาด 300cc เมื่อผ่าตัดเสร็จและวางถุงน้ำเกลือตรงตำแหน่งแล้วจึงจะเติมน้ำเกลือเข้าไปทางสายยาง ให้เต็มถุงตามปริมาตรที่ต้องการ ถุงซิลิโคนที่บรรจุน้ำเกลือก็จะพองขึ้นมาคล้ายซิลิโคนเจล เสร็จแล้วจึงจะถอดสายออก และปิดถุงน้ำเกลือ
- แบบซิลิโคนเจล เป็นซิลิโคนเกรดสำหรับใช้ในการแพทย์ เจลที่อยู่ข้างในจะมีความนิ่ม ยืดหยุ่น และเหนียวมาก สามารถเปลี่ยนรูปทรงได้ตามแรงบีบ
- แบ่งตามผิวสัมผัส เช่น แบบผิวเรียบ และแบบผิวทราย
- แบบผิวเรียบ จะมีความใสมากและพื้นผิวเรียบมาก
- แบบผิวทราย ถูกผลิตขึ้นมาเพื่อแก้ปัญหาพังผืดรัดตัวหลังการผ่าตัด เพราะในอดีตมักจะเกิดปัญหาเต้านมแข็งขึ้นหลังจากผ่าตัดไปได้ 6 เดือนเนื่องจากการใช้ซิลิโคนแบบผิวเรียบ ทำให้เกิดภาวะที่เรียกว่าพังผืดรัดตัว หน้าอกแข็งมากขึ้น ทั้งๆ ที่หลังตอนทำเสร็จใหม่ๆ เคยนิ่มกว่านี้ จึงมีการพัฒนาแบบผิวทรายขึ้นมาเพื่อลดปัญหาพังผืด แต่ในปัจจุบันยังมีการใช้อยู่ทั้ง 2 แบบขึ้นอยู่กับดุลพินิจของแพทย์และความต้องการของคนไข้
- แบ่งตามรูปทรงของซิลิโคน คือ ทรงกลม และทรงหยดน้ำ
- ทรงกลม แบบนี้จะกลมเท่ากันทั้งลูก เหมือนลูกบอลที่กลิ้งไปมาได้ ไม่มีปัญหาในการดูแลระยะยาว และผ่าตัดง่ายมากกว่าทรงหยดน้ำ
- ทรงหยดน้ำ ออกแบบมาเพื่อให้มันเหมือนหน้าอกจริง ด้านบนจะแบน ด้านล่างจะคล้อยลงมา ซึ่งแบบนี้ระยะหลังเป็นที่นิยมกันมากขึ้น แต่ปัญหาคือผ่าตัดและดูแลยากกว่าทรงกลม ต้องใช้แพทย์ที่มีความเชี่ยวชาญสูงเนื่องจากมีโอกาสที่ซิลิโคนจะหมุนกลับด้านบ้าง และเมื่อมีปัญหาต้องแก้ไขด้วยการผ่าตัดซ้ำ หรือต้องนวดบ่อยๆ เพื่อช่วยให้ซิลิโคนเข้าที่
เตรียมตัวอย่างไรเมื่อต้องเสริมหน้าอก
- งดรับประทานยาละลายลิ่มเลือด (กลุ่มยา Aspirin, Ibuprofen) วิตามินเอ อี ซี สมุนไพร โสม ใบแปะก๊วย น้ำมันปลา ก่อนรับบริการ 2 สัปดาห์
- งดสูบบุหรี่ และเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ ก่อนผ่าตัดอย่างน้อย 2 สัปดาห์
- ควรอาบน้ำสระผม ทำความสะอาดร่างกายให้สะอาดเรียบร้อยก่อนการผ่าตัด
- เตรียมใส่เสื้อผ้าที่หลวมสบาย ใส่และถอดใส่ง่าย เช่นเสื้อที่มีกระดุมหน้า
- งดอาหารและน้ำ ก่อนก่อนผ่าตัด เพื่อดมยาสลบ 6 ชั่วโมง
ขั้นตอนการผ่าตัดทำนม ทำอย่างไร
- เมื่อถึงวันผ่าตัด ศัลยแพทย์จะมีการสรุปแผนอีกครั้งก่อนเริ่มการผ่าตัด
- ศัลยแพทย์จะทำการวาดรอยปะบริเวณที่ต้องผ่าตัดตามที่ได้วางแผนร่วมกันมา
- หากคนที่ใช้วิธีการผ่าตัดเสริมซิลิโคนศัลยแพทย์จะให้ดมยาสลบก่อนผ่าตัด แต่หากเป็นการเสริมหน้าอกด้วยการฉีดไขมันอาจใช้เพียงแค่ยาชาเฉพาะที่เท่านั้น
- ศัลยแพทย์จะทำการผ่าตัดตามวิธีที่วางแผน หากผ่าตัดใต้ราวนมจะใช้เวลาน้อยกว่าเพราะศัลยแพทย์สามารถทำได้สะดวก มองเห็นได้ด้วยตัวเอง แต่หากผ่าที่ปานนมหรือรักแร้จะใช้เวลานานกว่า เพราะต้องใช้การมองผ่านการส่องกล้อง
- เมื่อเสริมหน้าอกเสร็จ ศัลยแพทย์จะเย็บปิดปากแผล โดยเฉลี่ยจะใช้เวลาประมาณ 1-2 ชั่วโมง
- ผู้ที่ทำการเสริมหน้าอกจะไม่รู้สึกเจ็บในระหว่างการผ่าตัด แต่อาจมีอาการปวดบวมบ้างในระหว่างพักฟื้น
การดูแลตัวเองหลังศัลยกรรมผ่าตัดเสริมหน้าอก
- หลังการผ่าตัด เสริมหน้าอก ควรงดออกกำลังกายหรือกิจกรรมที่ต้องยกแขนสูง ประมาณ 3 – 4 สัปดาห์
- ทานยาตามคำแนะนำของแพทย์
- สวมชุดซัพพอร์ตหน้าอก หลังการเสริมหน้าอก 2 – 4 สัปดาห์
- หลังการผ่าตัด เสริมหน้าอก ควร หลีกเลี่ยงไม่ให้แผลโดนน้ำประมาณ 5 วัน หลังผ่าตัด หากแผลเปียกน้ำควรใช้ผ้าสะอาดซับแผลให้แห้งทุกครั้ง
- งดสูบบุหรี่ และ ทานของหมักดอง ในช่วง 1 – 2 สัปดาห์แรก